อิทธิบาท 4 คืออะไร ความหมายของอิทธิบาท 4 อิทธิบาท 4 มีอะไรบ้าง หนทางหรือรากฐานสู่ความสำเร็จ 4 ประการ ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา
อิทธิบาท 4
ผมเชื่อว่าหนึ่งชีวิตของคนเราเกิดมาแล้ว ล้วนมีความต้องการที่จะบรรลุเป้าหมายความสำเร็จของตนเอง ซึ่งเป้าหมายความสำเร็จของแต่ละชีวิตนั้นก็ย่อมที่จะแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ความสำเร็จในการเรียน ต้องการผลการเรียนที่ดีในสายวิชาที่ตนชอบ เรียนจบตามเป้าหมาย ความสำเร็จในหน้าที่การงาน อยากเลื่อนตำแหน่ง อยากเป็นผู้จัดการบริษัท อยากให้คนอื่นนับหน้าถือตา หรือจะเป็นความสำเร็จในครอบครัว อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
หากลองสังเกตจากตัวอย่างที่ผมหยิบยกขึ้นมานั้นจะเห็นได้ว่าชีวิตคนเราหนึ่งชีวิตไม่จำเป็นจะต้องมีเป้าหมายความสำเร็จเพียงแค่เป้าหมายเดียวเท่านั้น แต่การบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ขั้นแรกเปรียบเหมือนการต่อบันไดที่จะปีนไปสู่งความสำเร็จขั้นต่อไป และนั่นจะส่งผลทำให้เรามีแรงใจที่จะบรรลุเป้าหมายต่อต่อไปที่สูงขึ้นเรื่อยเรื่อย
มีทฏษีขั้นตอนและแนวคิดมากมายที่จะนำพาไปสู่การบรรลุความสำเร็จนั้นได้ แต่หากพูดถึงหลักธรรมะที่เป็นแนวคิดและหลักปฏิบัติจากคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่มีคำว่าล้าสมัยไปตามกาลเวลา ที่สามารถเข้าถึงและเข้าใจได้โดยง่ายดายนั้นคือจะหนีไม่พ้น “อิทธิบาท 4”
ความหมายของอิทธิบาท 4
“อิทธิบาท 4” หากว่ากันตรงตัวตามคำหลักคำอธิบายของพระพุทธศาสนานั่นคือ “หนทางหรือรากฐานสู่ความสำเร็จ 4 ประการ” ถึงแม้ว่าแนวคิดคำสอนเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล แต่ด้วยหลักแนวคิดและการปฏิบัติที่ง่ายง่ายทั้ง 4 ประการนี้ทำให้สามารถนำมาปรับใช้ได้ทุกยุค ทุกสมัย นั่นประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา
อิทธิบาท 4 มีอะไรบ้าง
ฉันทะ คือความพอใจ พอใจที่ได้ทำในสิ่งนั้น ซึ่งแน่นอนหากมีความรักความพอใจในสิ่งที่กำลังกระทำอยู่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเช่นความตั้งใจ การมุ่งหวังจะให้เกิดผลดียิ่งยิ่งขึ้นกับผลแห่งความสุขที่ได้มาจากกระทำนั้น หากคุณลองตั้งคำถามขึ้นมาง่ายง่ายว่า “ชอบในงานที่กำลังทำอยู่รึเปล่า” “ชอบในคณะที่เรียนอยู่หรือไม่” หากคำตอบคือใช่ก็ควรเดินต่อไปไปข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย
วิริยะ หมายถึงความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคที่คอยเข้ามาเป็นแข้งขาที่คอยดักระหว่างทางเดินที่จะไปยังเป้าหมายความสำเร็จ แต่หากมีความอดทนที่จะต้องล้มลุกคลุกคลานจากการหกล้มสักกี่ครั้งหากมี “วิริยะ” ไม่ย่อท้อต่อการทำในสิ่งที่รักแล้วละก็เป้าหมายถึงไม่ไกลเกินจะคว้า
จิตตะ การควบคุมจิตใจให้แน่วแน่ มุ่งมั่นกับสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าหนทางจนยากแค่ไหน จะต้องพยายามสักเท่าไหร่ หากว่าใจที่แน่วแน่มั่นคงแล้วละก็ไม่ว่าปัญหาใดใดจะเข้ามาก็จะไม่ย่อท้อ ประคองจิตใจไปจนถึงเป้าหมายที่กำลังพยายามตามหา
วิมังสา การวิเคราะห์ตรึกตรองว่าสิ่งที่กำลังทำมันถูกต้องหรือไม่ มีผลเป็นเช่นไร หากไม่ดีไม่เข้าท่าก็ปรับปรุงแก้ไขคล้ายกับการขับรถหากขับออกนอกเส้นทางหากมองดูระหว่างทางรอบข้างไม่คุ้นตา ไม่ใช่เส้นทางที่จะพาไปยังเป้าหมายก็แก้ไขปรับเลือกเส้นทางใหม่ย่อมดีกว่าทนเดินในเส้นทางที่ผิด
อิทธิบาท 4 มีอะไรบ้าง
ฉันทะ คือความพอใจ พอใจที่ได้ทำในสิ่งนั้น ซึ่งแน่นอนหากมีความรักความพอใจในสิ่งที่กำลังกระทำอยู่นั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเช่นความตั้งใจ การมุ่งหวังจะให้เกิดผลดียิ่งยิ่งขึ้นกับผลแห่งความสุขที่ได้มาจากกระทำนั้น หากคุณลองตั้งคำถามขึ้นมาง่ายง่ายว่า “ชอบในงานที่กำลังทำอยู่รึเปล่า” “ชอบในคณะที่เรียนอยู่หรือไม่” หากคำตอบคือใช่ก็ควรเดินต่อไปไปข้างหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมาย
วิริยะ หมายถึงความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรคที่คอยเข้ามาเป็นแข้งขาที่คอยดักระหว่างทางเดินที่จะไปยังเป้าหมายความสำเร็จ แต่หากมีความอดทนที่จะต้องล้มลุกคลุกคลานจากการหกล้มสักกี่ครั้งหากมี “วิริยะ” ไม่ย่อท้อต่อการทำในสิ่งที่รักแล้วละก็เป้าหมายถึงไม่ไกลเกินจะคว้า
จิตตะ การควบคุมจิตใจให้แน่วแน่ มุ่งมั่นกับสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าหนทางจนยากแค่ไหน จะต้องพยายามสักเท่าไหร่ หากว่าใจที่แน่วแน่มั่นคงแล้วละก็ไม่ว่าปัญหาใดใดจะเข้ามาก็จะไม่ย่อท้อ ประคองจิตใจไปจนถึงเป้าหมายที่กำลังพยายามตามหา
วิมังสา การวิเคราะห์ตรึกตรองว่าสิ่งที่กำลังทำมันถูกต้องหรือไม่ มีผลเป็นเช่นไร หากไม่ดีไม่เข้าท่าก็ปรับปรุงแก้ไขคล้ายกับการขับรถหากขับออกนอกเส้นทางหากมองดูระหว่างทางรอบข้างไม่คุ้นตา ไม่ใช่เส้นทางที่จะพาไปยังเป้าหมายก็แก้ไขปรับเลือกเส้นทางใหม่ย่อมดีกว่าทนเดินในเส้นทางที่ผิด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น